ธรรมชาติทำให้คุณมีความสุขมากขึ้นและครุ่นคิดน้อยลง

ธรรมชาติทำให้คุณมีความสุข ได้มีการค้นพบเสมอว่าการเดินป่าในธรรมชาติทำให้ฉันรู้สึกมีความสุขมากขึ้น และแน่นอนว่าความเครียดที่ลดลงอาจเป็นสาเหตุส่วนใหญ่

แต่ Gregory Bratman จาก Stanford University ได้ค้นพบหลักฐานว่าธรรมชาติอาจส่งผลต่ออารมณ์ของเราในรูปแบบอื่นด้วย ในการศึกษาหนึ่งในปี 2558 เขาและเพื่อนร่วมงานสุ่มให้ผู้เข้าร่วม 60 คนเดิน 50 นาทีในสภาพแวดล้อมธรรมชาติ (ป่าโอ๊ก) หรือในเมือง (ตามถนนสี่เลน)

ก่อนและหลังการเดิน ผู้เข้าร่วมจะได้รับการประเมินเกี่ยวกับสภาวะทางอารมณ์และการวัดความรู้ความเข้าใจ เช่น พวกเขาสามารถทำงานที่ต้องใช้ความจำระยะสั้นได้ดีเพียงใด ผลการศึกษาพบว่าผู้ที่เดินในธรรมชาติมีความวิตกกังวล การครุ่นคิด (จดจ่ออยู่กับด้านลบของตนเอง) น้อยลง และมีอารมณ์ด้านบวกมากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่เดินในเมือง

พวกเขายังปรับปรุงประสิทธิภาพในงานและใรเรื่องของความทรงจำที่ดีมากขึ้นด้วย ก็เรียกได้ว่าถึงแม้จะเป็นการทดลองเพียงช่วงเวลาสั้นเท่านั้น แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็ถือว่าเป็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นค่อนข้างดีเลยทีเดียว

ในการศึกษาอื่น เขาและเพื่อนร่วมงานของเขาได้ขยายการค้นพบเหล่านี้โดยเน้นไปที่ว่าการเดินเล่นในธรรมชาติส่งผลต่อการเคี้ยวเอื้องอย่างไร ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเริ่มมีอาการของภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวล ในขณะเดียวกันก็ใช้เทคโนโลยี fMRI

เพื่อดูการทำงานของสมอง ผู้เข้าร่วมที่ใช้เวลาเดิน 90 นาทีในสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติหรือในเมือง ได้รับการสแกนสมองก่อนและหลังการเดิน และได้รับการสำรวจระดับการเคี้ยวเอื้องที่รายงานด้วยตนเอง (เช่นเดียวกับเครื่องหมายทางจิตวิทยาอื่นๆ)

นักวิจัยได้ควบคุมปัจจัยที่เป็นไปได้หลายอย่างที่อาจส่งผลต่อการเคี้ยวเอื้องหรือการทำงานของสมอง เช่น ระดับการออกแรงทางกายภาพที่วัดจากอัตราการเต้นของหัวใจและการทำงานของปอด ก็เป็นสิ่งที่ช่วยทำให้ร่างกายนั้นมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้นได้นั่นเอง

ถึงกระนั้นก็ตาม ผู้เข้าร่วมที่เดินในสภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติเมื่อเทียบกับสภาพแวดล้อมในเมืองรายงานว่าการเคี้ยวเอื้องลดลงหลังการเดิน

และพวกเขาแสดงให้เห็นกิจกรรมที่เพิ่มขึ้นในเปลือกนอกส่วนหน้าส่วนใต้ (subgenual prefrontal cortex) ซึ่งเป็นพื้นที่ของสมองซึ่งการหยุดทำงานเกี่ยวข้องกับภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวล การค้นพบนี้บ่งชี้ว่า ธรรมชาติอาจมีผลกระทบที่สำคัญต่ออารมณ์ Bratman เชื่อว่าผลลัพธ์เช่นนี้จำเป็นต้องเข้าถึงนักวางผังเมืองและคนอื่นๆ

ที่นโยบายส่งผลกระทบต่อพื้นที่ธรรมชาติของเรา “บริการระบบนิเวศกำลังรวมอยู่ในการตัดสินใจในทุกระดับของนโยบายสาธารณะ การวางแผนการใช้ที่ดิน และการออกแบบชุมชนเมือง และเป็นสิ่งสำคัญมากที่จะต้องแน่ใจว่าได้รวมข้อค้นพบเชิงประจักษ์จากจิตวิทยาเข้ากับการตัดสินใจเหล่านี้” เขากล่าว

 

ได้รับการสนับสนุนโดย    ufabet ฝากเงิน ออโต้