หมวดหมู่: เรื่องราวที่น่าสนใจ

เมื่อเอ่ยถึงชื่อประเทศ กัมพูชา สำหรับคนไทยแล้ว เชื่อว่าคงไม่มีใครไม่รู้จักประเทศนี้อย่างแน่นอน เนื่องจากประเทศกัมพูชา นั้น เป็นประเทศที่มีอาณาเขตอยู่ติดกับประเทศไทย เรียกได้ว่าเป็นประเทศเพื่อนบ้านกันมาอย่างยาวนาน และอาจจะกล่าวได้ว่าเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ที่มีความเกี่ยวพันธ์กันก็ได้ 

ประวัติประเทศกัมพูชามีความหลากหลายและน่าสนใจมาก ตั้งแต่ยุคโบราณจนถึงปัจจุบัน:

1. ยุคโบราณ: ประวัติศาสตร์ของกัมพูชาเริ่มต้นตั้งแต่ยุคโบราณ โดยเมื่อพุทธศักราชคริสตกาลที่ 1-6 กัมพูชาเป็นอาณาจักรที่สำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พวกมังกรของอนโกเกียเป็นกำแพงคุ้มของกัมพูชาในช่วงเวลานั้น นับเป็นยุคที่ความเจริญของวัฒนธรรมกัมพูชาเติบโตมากที่สุด
2. อาณาจักรของอังกฤษ: ในศตวรรษที่ 19, อังกฤษเข้ามามีอิทธิพลในพื้นที่ด้านใต้ของเขมร และกัมพูชาก็เริ่มต้นใช้ระบบปกครองอำนาจร่วมกับฝรั่งเศส
3. ยุคสงครามโลกครั้งที่สอง: ในช่วงที่สงครามโลกครั้งที่สองเกิดขึ้น กัมพูชาถูกติดตามอย่างใกล้ชิดโดยกองทัพญี่ปุ่น และต่อมาเป็นสนามรบระหว่างกองทัพพันธมิตรกับกองทัพของเชียงไทยและกองทัพเสือเสือของเหมืองโรมะ
4. การบุกครองของโปลโปท่องโลก: ในปี 1975, กัมพูชาถูกการบุกรุกโดยกองทัพของโปลโปท่องโลก ซึ่งนำมาซึ่งยุคของกัมพูชาสหภาพ เป็นส่วนหนึ่งของยุโรปตะวันออก และในระหว่างระยะเวลานี้ กัมพูชาก็ประสบกับความคับแคบทางการเมืองและความขัดแย้ง
5. ยุคปัจจุบัน: หลังจากการเข้าร่วมกับการแข่งขันทางการเมืองและการเศรษฐกิจของโลก กัมพูชาได้เริ่มต้นพัฒนาตัวเองในทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นองค์กรระดับภูมิภาคที่มีอิทธิพลในการสร้างสรรค์เส้นทางการพัฒนาที่ยั่งยืนและมีความยั่งยืน

ประเทศกัมพูชามีหลายสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่มีความสำคัญทั้งในด้านวัฒนธรรมและการประวัติศาสตร์เช่นกัน นี่คือบางสถานที่ที่น่าสนใจ:

1. Angkor Wat: เป็นวัดที่สร้างขึ้นในสมัยอังคาร ณ กัมพูชา ซึ่งมีความสำคัญทางทรัพยากรประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โดยเฉพาะในยุคอังคารของศัตรูร่วมบ้าน สถานที่นี้มีการประดิษฐ์และศิลปวัตถุที่มีคุณค่าเป็นอย่างมาก
2. Tonle Sap Great Lake: เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีความสำคัญทางธรณีวิทยาและสิ่งแวดล้อม มีชุมชนที่อาศัยอยู่บนเรือและบ้านเรืออยู่รอบๆทะเลสาบ
3. Phnom Penh: เป็นเมืองหลวงและเมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของกัมพูชา มีสถานที่ประวัติศาสตร์สำคัญอย่างRoyal Palace และWat Phnom
4. Banteay Srei Temple: เป็นวัดเล็กๆที่มีศิลปะและสถาปัตยกรรมที่ยอดเยี่ยม มีสแตนเล่อร์และรายล้อมไปด้วยพริกไทยที่สวยงาม
5. Preah Vihear Temple: เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนยอดเขา ณ ชายแดนกัมพูชา-ไทย มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และการทหาร เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ
6. Angkor Thom: เป็นเมืองเก่าที่สร้างขึ้นในยุคอังคาร และมีหลายสิ่งที่น่าสนใจอย่างพระอัฐิ (Bayon) และBaphuon

การเข้าชมสถานที่เหล่านี้จะช่วยให้คุณเข้าใจถึงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของกัมพูชาอย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น และมีประสบการณ์ท่องเที่ยวที่น่าจดจำอย่างแน่นอน

สนับสนุนเรื่องราวนี้โดย      alpha888 เครดิตฟรี

กีฬาวิ่ง เป็นหนึ่งในกิจกรรมกีฬาที่เล่นง่ายเล่นได้ตลอดเวลาแถมยังเป็นกิจกรรมการออกกำลังกายที่ กำลังมาแรงและเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในสมัยปัจจุบันนี้

เพราะเนื่องจากกีฬาวิ่งนั้นเป็นกิจกรรมที่สามารถช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่ร่างกายได้และยังเป็นกีฬาที่เราสามารถเล่นได้ทุกที่ ซึ่งส่วนใหญ่เราจะเห็นคนที่เล่นกีฬาประเภทนี้ โดยจะเล่นกันอยู่ที่สวนสาธารณะหรืออาจจะเป็นรอบๆบริเวณหมู่บ้าน

เพราะเป็นกีฬาที่เราไม่ต้องใช้อุปกรณ์ ซึ่งขอบอกเลยว่ากีฬาวิ่งถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมกีฬาที่ตอบโจทย์สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังกาย แต่ยากที่จะเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่ร่างกาย

แถมยังเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่กำลังมาแรงและเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในสมัยปัจจุบันนี้ แต่ทว่าถึงแม้จะเป็นกีฬาที่เล่นง่ายและมีประโยชน์ต่อร่างกายของเรามากขนาดไหนก็ตามแต่อยากให้ทุกคนรู้เอาไว้ว่าการเล่นกีฬาในแต่ละประเภทไม่ว่าจะเป็นประเภทไหนก็ตามรวมไปถึงกีฬาวิ่งด้วยก็มีข้อเสียและข้อดีที่แตกต่างกันออกไป

ซึ่งปัญหาที่คนส่วนใหญ่มักที่จะเจอกับการเล่นกีฬาวิ่งเลยก็คือ อาการจุกเสียดบริเวณท้อง ซึ่งเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้หลายสาเหตุจากการวิ่ง

ฉะนั้นวันนี้เราจะพาทุกคนไปดูกันว่า สาเหตุที่ทำให้เวลาเราวิ่งนั้นแล้วเรามีอาการรู้สึกจุกเสียดบริเวณท้องเกิดจากสาเหตุอะไรกันบ้างไปดูกันเลย

• การวิ่งด้วยท่าที่ไม่ถูกต้อง

รู้หรือไม่ว่ากีฬาวิ่งถึงแม้จะเป็นหนึ่งในกีฬาที่เล่นง่าย แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้นการที่เราจะเล่นกีฬาให้มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงที่สุดนั้นสิ่งสำคัญที่เราไม่ควรมองข้ามเลยก็คือท่าในการวิ่ง

เพราะกีฬาวิ่งหากเราวิ่งในท่าที่เหมาะสม ก็จะทำให้การวิ่งนั้นมีประสิทธิภาพต่อร่างกายของเรา แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เราวิ่งในท่าที่ไม่เหมาะสม นอกจากจะส่งผลกระทบต่อการวิ่งแล้วยังอาจทำให้เรามีอาการจุกเสียด และอาการอื่นๆที่อาจเกิดขึ้นจากการวิ่งได้เช่นกัน

• การรับประทานอาหารมื้อใหญ่เกินไป

ถึงแม้ว่าการรับประทานอาหารก่อนการเล่นกีฬาจะเป็นสิ่งสำคัญที่เราไม่ควรมองข้ามแล้วแต่รู้หรือไม่ว่าการที่เราจะออกไปวิ่งนั้น

สิ่งสำคัญที่เราไม่ควรมองข้ามเลยก็คือการเลือกโภชนาการให้ถูกต้อง โดยที่เราไม่จำเป็นต้องทานอาหารที่มื้อใหญ่จนเกินไปเพราะอาจจะทำให้เรามีอาการจุกเสียด ในระหว่างการวิ่งได้ทางที่ดีควรที่จะเลือกทานอาหารที่เบาๆเพื่อเป็นการรองท้องแทนจะดีกว่า

• ไม่ได้วอร์มร่างกาย

สิ่งสำคัญก่อนที่เราจะเล่นกีฬาเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพต่อร่างกายของเรามากที่สุดนั่นก็คือ การที่เราวอร์มหรือเตรียมความพร้อมของร่างกายให้มีความเหมาะสมมากที่สุด

เพราะไม่ว่าจะเป็นกีฬาประเภทไหนก็ตามหากเรามีการอุ่นเครื่องหรือเตรียมความพร้อมร่างกายนั้น นอกจากจะทำให้การเล่นกีฬามีประสิทธิภาพแล้วยังช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุในระหว่างการเล่นกีฬาได้อีกด้วย

ฉะนั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมเวลาที่เราเล่นกีฬาวิ่งแล้วเรามีอาการจุก อาจจะเป็นเพราะว่าเราไม่ได้ ได้เตรียมความพร้อมร่างกายจนอาจส่งผลกระทบต่อร่างกายของเรานั่นเอง

สนับสนุนเรื่องราวโดย    alpha88 ทางเข้า

ปัจจุบันคนไทยกำลังให้ความสนใจ รถยนต์ไฟฟ้า เนื่องจากเป็นรถยนต์ที่เข้ามาใหม่ และเป็นรถยนต์ที่มีการโฆษณาว่ามีความคุ้มค่าหากมีการซื้อมาใช้

ดังนั้นในบทความนี้จะนำเสนอเกี่ยวกับข้อมูลเบื้องต้นของรถไฟฟ้า

รถยนต์ไฟฟ้า (EV) หรือ Electric Vehicle คือรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อนแทนการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงแบบรถยนต์ทั่วไป รถยนต์ EV มีระบบขับเคลื่อนที่ประกอบด้วย

มอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ในการเก็บพลังงาน รถยนต์ EV มีข้อดีหลายประการ เช่น ไม่มีการปล่อยมลพิษทางอากาศ ลดการใช้น้ำมัน และมีเสียงเงียบในการขับขี่

ประเทศที่เริ่มคิดค้นและพัฒนารถยนต์ EV คือสหรัฐอเมริกา ซึ่งในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 19 ได้มีการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าขึ้นมา ต่อมาในคริสต์ศตวรรษที่ 20 และ 21 ประเทศอื่นๆ เช่น ญี่ปุ่น เยอรมัน จีน และเกาหลีใต้ก็ได้เริ่มพัฒนารถยนต์ EV อย่างเข้มข้น

ในปัจจุบัน รถยนต์ EV ได้เริ่มใช้งานในหลายประเทศทั่วโลก มากกว่า 50 ประเทศ โดยประเทศที่มีการใช้งานรถยนต์ EV อย่างแพร่หลายได้แก่ สหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น เยอรมัน นอร์เวย์ สวีเดน เนเธอร์แลนด์ และสหราชอาณาจักร

นอกจากนี้ ประเทศในภูมิภาคอื่นๆ อย่างเกาหลีใต้ อินเดีย และออสเตรเลีย ก็เริ่มมีการใช้งานรถยนต์ EV เพิ่มขึ้นเช่นกัน

สาเหตุที่รถยนต์ EV ไม่ค่อยได้รับความสนใจเท่ากับรถยนต์ที่ใช้น้ำมันมีหลายประการ ได้แก่:

1. ระยะทางการขับขี่: รถยนต์ EV โดยทั่วไปมีระยะทางการขับขี่ที่น้อยกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมัน ซึ่งยังคงเป็นข้อจำกัดสำหรับการเดินทางไกล
2. สถานีชาร์จไฟฟ้า: จำนวนสถานีชาร์จไฟฟ้ายังไม่เพียงพอและไม่ครอบคลุมเท่ากับสถานีเติมน้ำมัน ทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกไม่สะดวก
3. เวลาในการชาร์จ: การชาร์จไฟฟ้าของรถยนต์ EV ใช้เวลามากกว่าการเติมน้ำมัน ซึ่งอาจใช้เวลาหลายชั่วโมงในการชาร์จเต็ม
4. ราคา: รถยนต์ EV มีราคาสูงกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมัน เนื่องจากเทคโนโลยีและแบตเตอรี่ที่มีราคาสูง
5. ความเชื่อถือและความเคยชิน: ผู้บริโภคบางกลุ่มยังมีความเชื่อถือในรถยนต์ที่ใช้น้ำมันและยังไม่คุ้นเคยกับเทคโนโลยีใหม่

เปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของรถยนต์ EV และรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน

ข้อดีของรถยนต์ EV:

1. ลดการปล่อยมลพิษ: ไม่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) และสารพิษอื่นๆ สู่บรรยากาศ
2. ค่าใช้จ่ายในการใช้งาน: ค่าไฟฟ้าถูกกว่าค่าน้ำมัน ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว
3. เสียงเงียบ: รถยนต์ EV มีเสียงเครื่องยนต์ที่เงียบกว่า ทำให้ลดเสียงรบกวน
4. การบำรุงรักษาต่ำ: รถยนต์ EV มีชิ้นส่วนที่เคลื่อนที่น้อยกว่า ทำให้การบำรุงรักษาน้อยลง

ข้อเสียของรถยนต์ EV:

1. ระยะทางจำกัด: มีระยะทางการขับขี่ที่น้อยกว่าเมื่อเทียบกับรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน
2. สถานีชาร์จไฟฟ้าจำกัด: จำนวนสถานีชาร์จยังน้อยและไม่ครอบคลุมเท่ากับสถานีเติมน้ำมัน
3. เวลาในการชาร์จ: ใช้เวลาชาร์จไฟนานกว่าการเติมน้ำมัน
4. ราคาสูง: ราคาของรถยนต์ EV และแบตเตอรี่ยังคงสูงอยู่

สนับสนุนเรื่องราวโดย    Alpha88 สล็อต